ทัวร์ส่วนตัวยุโรป (MON004) แกรนด์สี่ประเทศ เซอร์เบีย – บอสเนีย - โครเอเชีย - มอนเตรเนโกร (8 วัน 7 คืน)
เที่ยวแบบกลุ่มเล็กไม่เหมือนใคร 4 ประเทศ เพ็ชรน้ำงามแห่งบอลข่าน เลือกเด็ดๆในสี่บรรยากาศที่แตกต่าง ทัวร์เซอร์เบีย ทัวร์บอสเนีย ทัวร์มอนเตรเนโกร และทัวร์โครเอเทีย ชมทุกเมืองเด็ดของสี่เพ็ชรน้ำงามนี้ ทริป 8 วัน 7 คืน
ทัวร์ส่วนตัวยุโรป แกรนด์สามประเทศ เซอร์เบีย - บอสเนีย - โครเอเชีย (8 วัน 7 คืน)
Day 1 - Belgrade
Day 2 - Mokra Gora - Drvengrad - Zlatibor
Day 3 - Visegrad - Sarajevo
Day 4 - Mostar
Day 5 - Blagaj - Pocitelj - Mali Ston - Cavtat
Day 6 - Budva - Kotor
Day 7 - Dubrovnik
Day 8 - Dubrovnik
Day 1 - Belgrade
ซียูอะเกนทัวร์ รอรับท่าน ณ สาอากาศยานเบลเกรด นิโคลา เทสลา กรุงเบลเกรด ประเทศเซอร์เบีย พาเที่ยวกรุงเบลเกรด
เที่ยวชมใจกลางเมืองเบลเกรด ชมป้อมปราการ Kalemegdan ซึ่งเป็นสถานที่เล่าถึงประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุด ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 13 และเป็นที่อยู่อาศัยหลักของชุมเมือง Belgrade ซึ่งอยู่เหนือขึ้นไปจากแม่น้ำ Sava และแม่น้ำ Danube ที่ไหลมาบรรจบกัน ชมโบสถ์ St.Sava ซึ่งถือได้ว่าเป็นโบสถ์คริสต์แบบออโธด็อกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้านในยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์แต่ดูเหมือนถูกสร้างเสร็จแล้วจากลักษณะที่ดูแวววาวสวยงามของหินอ่อนที่ไม่แตกต่างจากภายนอกเลย
ชมโบสถ์ Saborna ตั้งอยู่ใจกลางเมืองของ Belgrade ประเทศเซอร์เบีย เป็นโบสถ์ของชาวเซิร์บที่นับถือคริสเตรียนนิกาย Orthodox เป็นสถานที่ที่สำคัญสำหรับสักการะบูชาแห่งหนึ่งของประเทศ ต่อด้วยนำท่านชมโบสถ์ Saborna Crkva เป็นสถานที่ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ในเมือง Belgrade
นำท่านชมความสวยงามของเขตเมืองเก่า ชม Tito’s grave เป็นสถานที่ระลึกถึง ประธานาธิบดีของยูโกสลาเวีย ชม Teraze เป็นจัตุรัสที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมือง Belgrade และมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจมากมาย
ค้างคืนที่เมือง Belgrade, Serbia
Day 2 - Mokra Gora - Drvengrad - Zlatibor
ออกเดินทางสู่โมครา โกร่า (Mokra Gora, Serbia) เป็นสวรรค์แห่งภูเขาที่ซุกซ่อนอยู่อย่างสวยงาม ชมหมู่บ้านเดอเวนกาด (Drvengrad Bamboo Village) เป็นหมู่บ้านไม้โบราณน่ารักๆ และชมขนบธรรมเนียมประเพณีในหมู่บ้าน หมู่บ้านนี้ เป็นฉากถ่ายทำหนังหลายๆ เรื่อง ชมโบสถ์ไม้ ร้านอาหารไม้โบราณ
จากนั้นเดินทางสู่สถานีรถไฟฟ้าโมครา โกร่า ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง เส้นทางรถไฟ Sargan Eight steam train มีลักษณะเหมือนเลขแปด การสร้างรางรถไฟ Sargan เป็นตัวอย่างของความประสบความสำเร็จในการพิชิตเขา ที่ทำให้ระยะในการเดินทางสั้นลง และทุกวันนี้ได้กลายเป็นสถานที่มีชื่อเสียงและได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากอีกแห่งหนึ่งในประเทศเซอร์เบีย เส้นทางสวยงามและจะต้องไต่ขึ้นไปตามลักษณะของภูเขาที่ขรุขระตื่นเต้น
โมคราโกร่า ถือเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของโลก เมื่อมองลงมาจากท้องฟ้าจะมีลักษณะเหมือนเลขแปด นอกจากนั้นยังรู้จักกันดีในรูปแบบของภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นโดยนักสร้างหนังชื่อ Emir Kusturica สร้างขึ้นเกี่ยวกับความเชื่อในชนชาติในรูปแบบชุมชนเมือง
ได้เวลาพอสมควร พาเดินทาง 40 กม. สู่ ซลาติบอร์ (Zlatibor) เมืองทางตอนใต้ของเซอร์เบีย ซึ่งเมืองนี้อยู่เหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 1,000 เมตร อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีอากาศสดชื่น เนื่องจากธรรมชาติที่สมบูรณ์ ประกอบไปด้วยภูเขาและทะเลสาบราบล้อม ในช่วงฤดูหนาวยังเป็นเมืองสกี รีสอร์ทที่มีชื่อเสียง
ค้างคืนที่เมือง Zlatibor, Serbia
Day 3 - Visegrad - Sarajevo
จากนั้นเดินทางสู่เมืองวิเซกราด (Visegrad, Bosnia and Herzegovina) เป็นเมืองที่มีตึกมากมายที่บ่งบอกถึงแระวัติศาสตร์ที่เก่าแก่
เดินชมสะพานที่มีชื่อเสียงอย่างมากที่อยู่เหนือแม่น้ำ Drina สะพานนี้ถูกสร้างขึ้นในค.ศ.1577 ภายใต้กฏเกณฑ์การก่อสร้างแบบ มีความโค้ง 11 โค้ง มีความยาว 180 เมตร กว้าง 4 เมตร มีชื่อเสียงมากในด้านความสวยงามของสะพาน สะพานนี้ได้รับยกย่องให้เป็นมรดกโลกทางด้านศิลปะวัฒนธรรมจากยูเนสโก้(UNESCO) อีกด้วย
หลังจากชมความงามของสะพานแล้ว ออกเดินทางสู่ ซาราเยโว เมืองหลวงของบอสเนีย
ซาราเยโว ถูกขนานนามว่า เยรูซาเรมของชาวยุโรป เราจะได้ชมอนุสรณ์ที่เกี่ยวกับศาสนาที่ตั้งอยู่ในกลางเมือง เช่น สุเหร่าของชาวมุสลิม,โบสถ์คริสต์คาทอลิค, โบสถ์คริสต์แบบออร์โธด็อกและซินาก๊อกของชาวยิว
จากนั้นไปชมสุเหล่า Gazi - Husrev ‘s Beg เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของสถาปัตยกรรมแบบออตมัน เป็นสถานที่ที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากและเป็นที่รู้จักกันดีในบอสเนีย สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1531 ความกว้างของรูปโดม 13 เมตรมีหอคอยสูงขึ้นไป 45 เมตร
ชมวิหาร Jesus ‘s Heart เป็นโบสถ์ที่เปรียบเสมือนหัวใจของระเยซู และเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในบอสเนีย จึงถูกเรียกในอีกชื่อหนึ่งว่า มหาวิหารแห่งซาราเยโว แล้วไปชมโบสถ์ที่เป็นต้นกำเนิดของ Theotokos ซึ่งเป็นโบสถ์คริสต์นิกายออร์โธด็อกที่ใหญ่ที่สุดของชาวเซอร์เบียน ในซาราเยโว และเป็นหนึ่งในโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งในไบข่านอีกด้วย
ศาลากลางเมือง เป็นตึกอาคารที่ใหญ่ที่สุดและเป็นตึกที่เป็นสัญลักษณ์ความรุ่งเรืองของจักรพรรดิออสโตร-ฮังกาเรี่ยน
ค้างคืนที่เมือง Sarajevo, Bosnia and Herzegovina
Day 4 - Mostar
ช่วงเช้า ออกเดินทางสู่โมสตาร์ เมืองที่เคยเจอระเบิดครั้งใหญ่และถูกผลกระทบในสงครามระหว่างเซิร์บกับโครแอต และเป็นเมืองที่ใหญ่เป็อันดับ 5 ของประเทศ
เมืองโมสตาร์ตั้งอยู่บนแม่น้ำเนเรทวา (Neretva) ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นพรมแดนกั้นวัฒนธรรมของสองศาสนา คือ ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำ จะเป็นส่วนของศาสนาอิสลาม คือเป็นส่วนของสุเหร่าและเตอร์กิสเฮาส์ ส่วนฝั่งตะวันตกจะเป็นส่วนของศาสนาคริสต์แบบคาธอลิก อันเป็นที่ตั้งของโบสถ์และที่อยู่ของพระสงฆ์
ปัจจุบันโมสตาร์เป็นเมืองที่สวยงามและโด่งดังที่สุดอีกแห่งหนึ่งประเทศของบอสเนีย คำว่า โมสตาร์ มาจากคำว่า The Bridge Keepers หรือแปลว่า ชาวโมสตาร์ที่คอยดูรักษาสะพานที่ตั้งอยู่เหนือแม่น้ำเทเรทว่า
เดินเที่ยวตลาดเทปา ตั้งอยู่ไม่ไกลนักจากย่านสุเหร่า ให้ท่านได้เดินช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมือง
ค้างคืนแถบเมือง Mostar, Bosnia and Herzegovina
Day 5 - Blagaj - Pocitelj - Mali Ston - Cavtat
ออกเดินทางไปทางใต้สู่เมืองบรากายจ์ (Blagaj) เมืองที่เป็นต้กำเนิดของแม่น้ำบูน่า (Buna)ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลนักจากเมืองโมสตาร์
แล้วเดินทางสู่เมือง โพซิเทล (Pocitelj) ห่างจากเมืองบรากายจ์ 25 กิโลเมตรเป็นเมืองที่มีชื่อเสียง เกี่ยวกับด้านสถาปัตยกรรมแบบอิสลามมิค ซึ่งเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมที่หาชมได้ยากยิ่งอีกทั้งเมืองนี้ ยังเป็นมรดกโลก ที่ยูเนสโก้กำลังบูรณะให้เมืองแห่งนี้กลับมาเป็นดังเดิมเช่นในอดีตกาล เนื่องจากเมืองโพซิเทล เป็นเมืองที่มีตำนาน ประเพณี และเรื่องราว ยาวนานที่สุดในเขตยุโรปตะวันออกเฉียงใต้
แล้วเดินทางไปยังเมืองมาลี สตอน (Mali Ston, Croatia) ประเทศโครเอเทีย รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารพื้นเมืองเมนูพิเศษปลาทูน่า ชมขั้นตอนต่างๆของฟาร์มหอย ลองลิ้มชิมรสหอยนางรมสดๆจากทะเลอเดรียติค จิบไวน์ขาว ชิมหอยนางรมสดๆ บริเวณอ่าวมาลีสตอน แห่งท้องทะเลอาเดรียติก
จากนั้นเดินทางสู่เมืองซาฟตัท แนะนำรับประทานอาหารพื้นเมือง เมนู Starter กันด้วยเมนู Black Risotto เมนูเด็ดกับ Lobster with spaghetti
ค้างคืนที่เมือง Cavtat, Croatia
Day 6 - Budva - Kotor
ออกเดินทางไปทางข้ามพรมแดนสู่ ประเทศมอนเตรเนโกร (Montenegro) แปลความหมายเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า Black Mountain หรือภูเขาสีดำ ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ ปัจจุบันมอนเตเนโกเป็นประเทศสมาชิกของสหประชาชาติ และพยายามร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรป แล้วไปเที่ยวต่อที่เมืองบุดว่า (Budva) ระยะทาง 23 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 30 นาที เป็นเมืองโบราณตั้งอยู่บนชายฝั่งอาเดรียติค เป็นเมืองเก่าแก่ที่สุดอีกแห่งที่ตั้งอยู่รอบทะเลอาเดรียติค มีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 2,500 ปี ปัจจุบันได้รับฉายาว่าเป็น “ริเวียร่าแห่งมอนเตเนโกร”
บ่าย เดินทางสู่เมืองกอเตอร์ (Kotor) ระยะทาง 93 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง มรดกโลก UNESCO แห่งแรกของประเทศมอนเตเนโกรที่ได้รับรองในปี ค.ศ.1979 ระหว่างทางจะได้ชมเมืองเก่และธรรมชาติที่สวยงาม แล้วเข้าชม ST.TRIPHUN CHURCH โบสถ์นิกายคาทอลิก แล้วเดินทางสู่เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโครเอเชีย และเป็นเมืองที่สวยงามติดอันดับต้นๆของโลก
ค้างคืนที่เมือง Kotor, Montenegro
Day 7 - Dubrovnik
เดินทาง 100 กม. เที่ยวชมเมืองดูบรอฟนิค ซึ่งในอดีตเมื่อปี 1991 เมืองดูบรอฟนิค ได้เป็นเป้าหมายถูกโจมตีจากกองกำลังทหารยูโกสลาฟ บ้านเรือนกว่าครึ่ง อนุสาวรีย์ต่างๆเสียหาย และทรุดโทรม และทรุดโทรม หลังจากนั้นในปี 1995 ได้มีการลงนามในสนธิสัญญา ERDUT สงบศึกและเข้าสู่สภาวะปกติ UNESCO และสหภาพยุโรป ได้ร่วมกันบูรณะซ่อมแซม เมืองส่วนที่เสียหายขึ้นใหม่ในระยะเวลาอันสั้น
ปัจจุบันเมืองดูบรอฟนิค ก็กลับมาสวยงามอีกครั้ง และมีการส่งเสริมให้เป็นมรดกโลกอีกเมืองหนึ่ง ชมทัศนียภาพของเมืองดูบรอฟนิค ที่ตั้งอยู่ตามชายฝั่งทะเลอเดรียติค ตัวเมืองจะเป็นป้อมปราการโบราณที่ถือเป็นสัญลักษณ์ขอเมือง
ถ่ายรูปที่ระลึกกับเสาหินอัศวิน ,หอพิเศษตรงลูกกลมๆใต้หน้าปัดซึ่งแทนพระจันทร์บอกข้างขึ้นข้างแรมในสมัยก่อน และรูปปั้นของนักบุญ St.Blaise ซึ่งมีโบสถ์ประจำเมืองสไตล์โรมาเนสก์แห่งแรกของเมืองเป็นฉากหลังเพิ่มเสน่ห์มนต์ขลังสวยงาม
เดินทางสู่สถานีเคเบิลคาร์เพื่อขึ้นกระเช้าไฟฟ้า สู่ยอดเขา SRD ที่มีความสูง 400 เมตร เพื่อชมวิวทิวทัศน์ปรการที่มีขนาดกว้างขวางใหญ่โตของเมืองดูบรอฟนิค สามารถชมความงดงามของตัวเมืองได้เป็นอย่างดี
จากนั้นไปช้อปปิ้งเงินคูน่าก่อนเดินทางออกจากประเทศโครเอเชีย ซื้อของฝากจาก Konzum ซุปเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่นที่มีสินค้าหลากหลายมากมาย ไม่ว่าจะเป็น KRAS ช็อกโกแลตท้องถิ่น ยี่ห้อเก่าแก่ที่สุดในยุโรปตะวันออกกลาง ไวน์โลกเก่าท้องถิ่น “Dingac” “Postup”จากองุ่นพันธ์ท้องถิ่น “Plavac Mali” คุณภาพระดับเดียวกับไวน์ฝรั่งเศสหรืออิตาเลี่ยน และสินค้าอื่นๆอีกมากมาย
ค้างคืนที่เมือง Dubrovnik, Croatia
Day 8 - Dubrovnik
วันนี้ เราจัดรถรับส่งท่าน ณ สนามบิน ตามเวลานัดหมาย และเดินทางกลับประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ และประทับใจ
ราคา
เดินทาง 6-8 ท่าน ท่านละ 65,500 บาท
ราคารวม
- รถตู้/รถโค้ชพร้อมคนขับรถ ตามขนาดของกรุ๊ป (ราคารวมน้ำมัน ทางด่วน โรงแรม และอาหารคนขับแล้ว)
- ที่พักพร้อมอาหารเช้า ราคาไม่เกินคืนละ 120 ยูโร ต่อห้องคู่ หากต้องการอัพเกรด จ่ายเพิ่มเองตามจริง
- ค่าประกันการเดินทางแบบกลุ่ม ตามกฏหมายกำหนด คุ้มครองตามเงื่อนไขกรมธรรม์
ราคาไม่รวม
- ที่จอดรถ จ่ายเป็นรายครั้งไป ตามโปรแกรมท่านเลือกเที่ยวจริง
- กรณีรถโค้ช ราคาไม่รวม City permit จ่ายเป็นรายครั้งไป ตามโปรแกรมท่านเที่ยวจริง, หากมีเอารถลงเรือ Ferry จ่ายเองหน้างานตามจริง
- ทิปคนขับ ตามพอใจ แนะนำ วันละ 40 ยูโร/คณะ
- อื่น ๆ ที่ไม่เขียนว่ารวม เช่น อาหารเที่ยงและเย็น ค่ายกกระเป๋า ณ โรงแรมที่พัก ค่าวีซ่าและค่าตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศ ตั๋วท่องเที่ยว จ่ายหน้างานเองตามจริง ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และหัก ณ ที่จ่าย 3%
- หากต้องการหัวหน้าทัวร์ จ่ายเพิ่มวันละ 10,000 บาท ราคารวมโรงแรมและอาหารหัวหน้าทัวร์แล้ว
การจ่ายเงิน
• งวด 1 มัดจำ คณะละ 5,350 บาท สามารถจองผ่านบัตรเครดิต ผ่านหน้าระบบเวบไซต์ได้เลย จากนั้นเราจะออกใบจองทัวร์คอนเฟิร์มให้ท่าน (หากทริปไม่คอนเฟิร์ม จะคืนเงินให้ 100% ภายใน 7 วัน)
• งวดที่ 2 ท่านละ 5,000 บาท ภายใน 7 วัน หลังจากได้รับการคอนเฟิร์มแล้ว
• งวดที่ 3 ท่านละ 25,000 หลังจากวีซ่าผ่านแล้ว หรือ/และก่อนเดินทาง ไม่น้อยกว่า 30 วัน
• งวดที่ 4 ท่านละ ที่เหลือ วันที่ 2 ของทริป หลังจากเราไปรับท่านแล้ว (เพื่อความมั่นใจ)